งานศิลปะ จัดเป็นงานสร้างสรรค์ของมนุษย์ประเภทหนึ่ง ซึ่งมีเอกลักษณ์แตกต่างกันไปในแต่ละพื้นที่ งานศิลปะถูกสร้างขึ้นมา จากความเชื่อทางด้านศาสนา, วัฒนธรรม, ประเพณี รวมทั้งวิถีชีวิตของมนุษย์ในประเทศนั้นๆ แน่นอนว่าศิลปะในประเทศไทยของเราก็มีความโดดเด่นในแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองเช่นเดียวกัน เพราะฉะนั้นจึงมีความแตกต่างจากศิลปะในต่างประเทศในหลายๆด้าน สำหรับวันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านไปทำความรู้จักกับความแตกต่างของงานศิลปะไทยกับงานศิลปะจากต่างประเทศกันค่ะ
ศิลปะไทย
ในอดีตการสร้างสรรค์งานศิลปะของชาวไทย มีจุดมุ่งหมายเพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม โดยมีความโดดเด่นเฉพาะตัว ทั้งในเรื่องของลายเส้นและการใช้สี ที่เรียกว่า Thai Tone สามารถแบ่งงานศิลปะออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ๆได้แก่ งานวิจิตรศิลป์ และประยุกต์ศิลป์
- วิจิตรศิลป์ จัดเป็นงานศิลปะที่สืบสานมาตั้งแต่สมัยโบราณ เช่น งานประติมากรรม, จิตรกรรม และสถาปัตยกรรม เป็นต้น
- ประยุกต์ศิลป์ คือ งานศิลปะสมัยใหม่ ที่มีการพัฒนาขึ้นมาเป็นไปตามกลไกของยุคสมัย เช่น แฟชั่น, งานศิลปะตามกำแพง Graffiti, งานศิลปะที่สร้างสรรค์ด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ อย่าง Digital Paint เป็นต้น
แนวทางศิลปะของไทยมีความเป็นตัวของตัวเองค่อนข้างสูง ยามได้รับชมสัมผัสได้ถึงความอ่อนช้อยงดงาม แสดงให้เห็นถึงลายละเอียดที่ร้อยเรียงมารวมเข้าไว้ด้วยกันเป็นอย่างดี โดยเฉพาะงานวิจิตรศิลป์ที่มีการนำวัฒนธรรม, ความเชื่อ, ประเพณี วิถีชีวิต ของคนไทยในสมัยอดีตเข้ามาผสมผสานก่อเกิดเป็นงานศิลปะอันทรงคุณค่า รวมทั้งการสร้างสรรค์ตัวละครจากวรรณคดีต่างๆที่นำไปประดับประดาในวัด เช่น นำสัตว์มาจินตนาการ อย่างเช่น ลิงที่สามารถยืนสองขาเหมือนมนุษย์และมีอิทธิฤทธิ์กายสิทธิ์ต่างๆ รวมทั้งสวมเครื่องประดับ สวมกางเกง หรือ ตัวละครประเภทยักษ์ซึ่งมีรูปร่างท่าทางถมึงทึงอันเป็นเอกลักษณ์ เป็นต้น โดยการแบ่งแยกแนวทางศิลปะในประเทศไทย มีการแบ่งออกเป็นตามยุคสมัยต่างๆ เช่นงานศิลปะแบบกรุงสุโขทัย, กรุงศรีอยุธยา และกรุงธนบุรี เป็นต้น
งานศิลปะในต่างประเทศ
การสร้างสรรค์งานศิลปะในต่างประเทศส่วนใหญ่แล้ว จะใช้แนวความคิดที่เกิดจากพื้นเพในภูมิภาคของผู้สร้างสรรค์ผลงานเป็นหลัก แน่นอนว่าในหลายๆผลงานก็มีการนำเอาความเชื่อทางศาสนาเข้ามาผสมผสานในชิ้นงานด้วย สำหรับนิยามของคำว่างาน ‘ศิลปะสากล’ เป็นคำที่แสดงให้เห็นถึงผลงานที่มาจาก ศิลปะกลุ่มประเทศยุโรปหรืองานที่มาจากสหรัฐอเมริกา แต่นอกเหนือจากนั้นในประเทศอื่นๆก็มีผลงานศิลปะที่เป็นแนวทางของตัวเอง ศิลปินก็จะนำวัฒนธรรมของตัวเองเข้ามาใส่ในผลงาน โดยประวัติความเป็นมาของงานศิลปะในต่างประเทศก็มีการแบ่งแยก ตามช่วงเวลาที่งานถูกสร้างสรรค์ขึ้นมา โดยหนึ่งในผลงานที่หลายๆคนคงรู้จักกันดี ก็คงหนีไม่พ้นภาพของผู้หญิงที่มีรอยยิ้มลึกลับที่สุดในโลก Mona Lisa ซึ่งผลงานชิ้นนี้มีรหัสลับซ่อนอยู่มากมาย และความเป็นมาของรูปก็ยังคงเป็นปริศนา ซึ่งผลงานชิ้นนี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาจากแนวคิดของศิลปินผู้วาดอีกด้วย
ความแตกต่างของงานศิลปะไทยกับงานศิลปะต่างประเทศ
เมื่อมองจากภาพรวมแล้วงานศิลปะไทยกับงานศิลปะต่างประเทศ มีความแตกต่างกันค่อนข้างมาก ทั้งในเรื่องของเทคนิคที่ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงาน, โทนสี, แนวคิด, ลายเส้น รวมทั้งการสื่อสารที่สื่อไปหาผู้ชม หากแต่มีสิ่งหนึ่งที่มีความคล้ายคลึงกันอยู่นั่น ก็คือ ปัจจัยหลักในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะคือการนำวิถีชีวิต และสภาพแวดล้อมในแต่ละพื้นที่มาประกอบรวมกันพร้อมใส่เข้าไปในชิ้นงาน จนกระทั่งก่อเกิดเป็นความสวยงามที่มีความหมายอันลึกล้ำแฝงอยู่ เพราะฉะนั้นจึงสามารถสรุปได้ว่า การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะ ไม่ว่าจะมาจากประเทศไหน แห่งใด ต่างก็เป็นผลงานที่มีคุณค่า ซึ่งแสดงออกให้เห็นถึงเอกลักษณ์ประจำชาตินั้นๆ นั่นเอง